FAST TRACK INTEGRATIVE TRAINING PROGRAM

มีนาคม 2022
ปัจจุบันการแพทย์แนวผสมผสาน หรือที่เรียกว่า เวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก เนื่องจากตอบโจทย์ของสุขภาพได้อย่างแท้จริง และในปี 2565 รัฐบาลได้ประกาศให้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่ง Center of Global Medical Wellness จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยและบุคคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด ที่จะใช้ความรู้ ความสามารถขับเคลื่อน Wellness Economy หรือ เศรษฐกิจที่มาจากความเป็นอยู่ที่ดี แต่ทั้งนี้ยังขาดแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดูแลคนไข้ที่หลากหลาย ด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นที่มาของ โปรแกรมการฝึกอบรม FIT เพื่อสร้างองค์ความรู้ ความมั่นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ
ผู้รับผิดชอบโครงการ :
นพ.บัญชา แดงเนียม ( อุปนายกสมาคมการแพทย์คีเลชั่นไทย , เลขาธิการสมาคมเซลล์บำบัดไทย ).
โดยทำการอบรมร่วมกับทางคณะแพทยศาสตร์ ม.สยาม
ระยะเวลาในการจัดหลักสูตร :
12 สัปดาห์ ( เรียนสัปดาห์ละ 1 – 2 วัน ครั้งละ 3 – 4 ชั่วโมง)
รับสมัครแพทย์ผู้เข้าร่วมอบรม :
20-30 ท่าน/รอบ

Part 1 : ทบทวนความรู้วิทยาศาสตร์พื้นฐาน สัปดาห์ที่ 1 – 3 รับผิดชอบโดยคณะแพทย์มหาวิทยาลัยสยาม
อบรมผ่าน Video Conference
สัปดาห์ที่ 1
- กายวิภาค (Anatomy) และสรีรวิทยา (Physiology) : ทบทวนกายวิภาค และหน้าที่การทำงานของอวัยวะในระบบต่าง ๆ เน้นความเชื่อมโยง การทำงานประสานงานกันในแต่ละระบ
- ชีวเคมี (Biochemistry) : ทบทวนพื้นฐานกลไกของการดูดซึม และการเผาผลาญสารอาหารสำคัญ ได้แก่ โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, และไขมัน
สัปดาห์ที่ 2
- ต่อมไร้ท่อ (Endocrinology) : ทบทวนการทำงานของระบบฮอร์โมนต่าง การควบคุมการสั่งการจากสมอง และการทำงานของต่อมไร้ท่อ ไปจนถึงการแสดงผลที่อวัยวะเป้าหมาย
- คัพภวิทยา (Embryology) : ทบทวนการก่อเกิดอวัยวะร่างกายตั้งแต่ปฏิสนธิจนคลอดเป็นทารก เพื่อเชื่อมโยงถึงพยาธิสภาพของโรคที่เป็นแต่กำเนิด ซึ่งนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขได้ เช่น ภาวะออทิสติก เป็นต้น
- วิทยาภูมิคุ้มกัน (Immunology) : ทบทวนกลไกการทำงานของระบบภูมิต้านทานในร่างกาย การตอบสนองของภูมิต้านทานในทุกรูปแบบ
สัปดาห์ที่ 3
- การก่อกำเนิดโรค (Pathophysiology) : ทบทวนทำความเข้าใจการดำเนินโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ความเป็นไปในระยะต่างๆของการตอบสนองของร่างกาย จนถึงจุดสิ้นสุด
- เภสัชวิทยา (Pharmacology) : ทบทวนกลไกการทำงานของร่างกายในการดูดซึมยา การปรับเปลี่ยนยา และการทำลายสารเคมีต่าง ๆ ไปจนถึงการขับถ่ายสารออกจากร่างกาย
Part 2 : ความรู้ด้านเวชศาสตร์บูรณาการ สัปดาห์ที่ 4 – 10 รับผิดชอบโดย นพ.บัญชา แดงเนียม
อบรมผ่าน Video Conference
แพทย์ที่ร่วมอบรมจะได้รับความรู้จากการบรรยายและคู่มือในเรื่องการแพทย์ทางเลือกดังต่อไปนี้
สัปดาห์ที่ 4
- การวินิจฉัย ( 3 ชั่วโมง )
- Bio-energy scan : คือเครื่องมือที่ส่งคลื่นสัญญาณผ่านเส้นลมปราณไปสะท้อนการปล่อยพลังงานของเซลล์เพื่อประเมินค่าเบี่ยงเบนของ พลังงานในเซลล์ที่มีค่าเฉพาะต่อความผิดปกติต่างๆ
- Live Blood Analysis : คือการดูเม็ดเลือดสดจากหยดเลือดปลายนิ้วผ่านกล้องจุลทรรศน์พื้นมืด (Dark-field microscope) ซึ่งจะประเมินลักษณะของเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และน้ำเลือด รวมถึงประเมินการทำงานของเอนไซม์ได้อีกด้วย
- Functional lab test : คือการวิเคราะห์ผลการตรวจต่างๆเชิงลึก โดยไม่รอให้เกินหรือน้อยกว่าค่าอ้างอิง แต่จะประเมินแนวโน้ม ความเสี่ยง ของความผิดปกตินั้นๆ
สัปดาห์ที่ 5
- การล้างพิษ ( 3 ชั่วโมง )
- Chelation Therapy คือการเรียนรู้ถึงอันตรายของสารพิษโลหะหนักที่มีผลต่อสุขภาพและการกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย
- Colon Cleansing คือการล้างลำไส้ใหญ่เพื่อขจัดสารพิษตกค้างและฝึกลำไส้ใหญ่ให้ทำงานตามปกติ
สัปดาห์ที่ 6
- การเสริมสร้างภูมิต้านทาน (3 ชั่วโมง)
- Nutrition Supplements ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ถึงอาหารเสริมที่จำเป็น รวมถึงกลไกการทำงานของสารอาหารภายในร่างกาย
- IV Antioxidant การให้สารต้านอนุมูลอิสระทางหลอดเลือด อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
- Ozone Therapy การใช้ก๊าซโอโซนในการบำบัดการอักเสบต่างๆ
สัปดาห์ที่ 7 – 8
- การฟื้นฟูร่างกาย ( 3 ชั่วโมง )
- Cell Therapy คือการฟื้นฟูการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายด้วยหลักการของ Like heal Like, ผู้เรียนจะได้รู้จักเซลล์บำบัดแต่ละชนิดรวมถึงข้อบ่งใช้
สัปดาห์ที่ 9
- การแพทย์ภูมิปัญญา : Thai Traditional Medicine (TTM), Chinese Traditional Medicine (TCM), Chiropractic, Ayurveda (3 ชั่วโมง)
- แพทย์ที่ร่วมอบรมจะได้เรียนรู้หลักการของการแพทย์ภูมิปัญญาโดยสังเขป ได้แก่ การแพทย์แผนไทย, การแพทย์แผนจีน, การจัดกระดูก และการแพทย์อายุรเวท
สัปดาห์ที่ 10
- กัญชาศาสตร์ ; Cannabis Health Sciences (3 ชั่วโมง)
Part 3 : เรียนรู้จากสถานการณ์จริง (Case discussion) สัปดาห์ที่ 11 – 12
Part ที่ 3 จะเป็นการฝึกปฏิบัติจริง
แพทย์ผู้เข้าอบรมจะได้ทำการฝึกปฏิบัติงานจริง
- ซักประวัติ
- การตรวจร่างกาย
- แพทย์สั่งตรวจ LAB ตามรูปแบบที่กำหนด
- แพทย์นำผลการตรวจต่างๆ มาอภิปราย และออกแบบโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสม
หลังจบโปรแกรมอบรมทั้ง 12 สัปดาห์ แพทย์ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงาน และมีการร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงผลความคืบหน้าในการรักษาภายหลังการอบรม เพื่อให้เกิดองค์ความรู้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง รวมถึงแพทย์ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถ Redeem ค่าหลักสูตรอบรมเป็นผลิตภัณฑ์ WMA ได้
ลงทะเบียนได้ที่ www.morhello.com/partner-register
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : Tel. 084-360-5062 (คุณอาย)